พาชิมจิจิบุโซบะ ที่ร้านวาเฮ
วันนี้เราจะพามาทานโซบะที่ขึ้นชื่อของเมืองจิจิบุ ที่ร้านวาเฮ (Wahei) ซึ่งที่นี่มี จิจิบุโซบะ (Chichibu Soba) ที่อร่อยขึ้นชื่อ
แค่เห็นคนยืนรอคิวหน้าร้านเต็มไปหมด รับประกันได้เลย ว่าต้องอร่อยแน่นอน จะอร่อยขนาดไหนเดี๋ยวเราเข้าไปชิมกันเลย
มาถึงร้านโซบะที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ทั้งที เราก็ต้องมาชิมเซ็ทโซบะที่ขึ้นชื่อของร้านกัน เซ็ทนี้เลย จิจิบุโซบะ มีโซบะ เสริฟพร้อมเทมปุระร้อนๆ
เส้นโซบะของที่นี่ จะมีความแตกต่างจากที่อื่น คือโซบะจะทำมาจากบัควีค แต่โซบะของที่นี่ จะใช้บัควีคผสมกับวอลนัท ซึ่งมีความพิเศษและแตกต่างจากเมืองอื่นๆ
และการทานโซบะของที่นี่ก็แตกต่างจากที่อื่นอีกด้วย โดยมีเคล็ดลับความอร่อยที่ต้องลองถึง 4 แบบเลยทีเดียว
1. ทานเส้นโซบะอย่างเดียว
2. ทานเส้นโซบะพร้อมน้ำซอส โดยการจิ้ม 1 ส่วน 3 ของน้ำซอส
3. ทานเส้นโซบะกับน้ำซอสและเครื่องเคียง โดยการใส่ต้นหอม และวาซาบิ ลงไปในน้ำซอส
4. เติมโชยุลงไปในน้ำซอส แล้วทานกับโซบะ
เราก็จะได้วิธีการทานโซบะที่หลากหลายรูปแบบ รู้วิธีการทานกันแล้ว ก็ถึงเวลาชิมซะที เส้นโซบะ ถ้าทิ้งไว้นานๆ จะแข็งตัว เราต้องรีบชิมแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นเส้นจะแข็งแล้วไม่อร่อย
เรามาชิมแบบเส้นโซบะอย่างเดียวก่อน โดยไม่ต้องจิ้มซอส จะได้กลิ่นหอมของเส้นโซบะ เส้นนุ่มอร่อยกำลังดี
มาชิมแบบจิ้มซอสกันบ้าง ต้องจิ้ม 1 ใน 3 ตามสูตร จิ้มนิดเดียวพอ ได้กลิ่นและรสชาติของซอส อร่อยไปอีกแบบ สำหรับใครที่ไม่ชอบทานเค็ม จิ้มแบบนี้กำลังอร่อยพอดีเลย
มาชิมแบบที่ 3 กันบ้าง โดยการใส่ต้นหอม และวาซาบิ ลงไปในซอส แล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว นำโซบะจิ้มลงไป จะได้กลิ่นหอมของต้นหอม และความเผ็ดหน่อยๆ ของวาซาบิ จิ้มแบบนี้ถูกใจจริงๆ เลย อร่อยมากๆ
ชิมแบบสุดท้ายกันบ้าง โดยการเติมโชยุลงไปผสมเครื่องเคียงลงในน้ำซอส จะเพิ่มความเข้มข้นลงไปอีก ก็อร่อยเหมือนกัน
ใครชอบรสชาติไหน ก็เลือกใส่กันตามใจชอบเลย มีให้เลือกทานตั้ง 4 แบบ ชอบรสชาติไหนก็ตามสบายเลย
มาชิมเทมปุระกันต่อเลย เดี๋ยวจะเย็นซะหมด เทมปุระของที่นี่ มาแบบร้อนๆ กรอบๆ และที่สำคัญไม่อมน้ำมันอีกด้วย กัดเข้าไปแป้งกรอบ อร่อยสมคำร่ำลือเลยทีเดียว
มาเที่ยวที่เมืองจิจิบุ แนะนำ ให้มาชิม จิจิบุโซบะ ที่ร้านวาเฮ รับรองเลยว่าอร่อย เพราะมีคนต่อแถวยาวเลยที่หน้าร้าน ลองมาชิมกันดู ว่ารสชาติจะอร่อยถูกปากกันหรือเปล่า
การเดินทาง : จากสถานีนากาโตโร่ (Nagatoro Station) ใช้เวลา 23 นาที มาลงที่สถานีจิจิบุ (Chichibu Station) แล้วเดินต่ออีก 800 เมตร ประมาณ 9 นาที