จะลุ้นหาที่นั่งทำไม มาจองตั๋วที่นั่งรถไฟญี่ปุ่นแบบง่ายๆ กันดีกว่า

คราวที่แล้ว เราแลกตั๋ว JR Pass กันมาแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องมาใช้ตั๋ว JR Pass แบบง่ายๆ ด้วยการจองที่นั่ง เพื่อให้การเดินทางตลอดเส้นทางของเราสะดวกสบายหายห่วง

การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นนั้น เราจะแบ่งขบวนรถไฟออกเป็น 2 ประเภทง่ายๆ คือ

1. รถไฟที่วิ่งในตัวเมือง จะเป็นรถไฟคล้ายๆ รถไฟฟ้าบ้านเรา ซึ่งจะแบ่งที่นั่งเป็น 2 ฝั่งของตู้รถไฟ หันหน้าชนกัน รถไฟประเภทนี้ จะมาค่อนข้างถี่ทุกๆ 3 - 15 นาที รถไฟแบบนี้เราสามารถ ขึ้นตอนไหน หรือขบวนไหนก็ได้ ไม่ต้องทำการจองก่อนล่วงหน้า

2. รถไฟที่วิ่งนอกตัวเมือง หรือวิ่งระหว่างเมือง รถไฟประเภทนี้จะมีที่นั่ง ที่สะดวกสบาย สามารถปรับเบาะเอนได้ มีที่วางถาดอาหาร เพื่อรับประทานอาหารระหว่างทาง และมีห้องน้ำบริการด้วย เพราะการขึ้นรถไฟที่วิ่งออกนอกตัวเมืองนี้จะวิ่งระยะทางไกล และค่อนข้างใช้เวลาในการเดินทางนาน รถไฟจึงมีความสะดวกสบายเพื่อรองรับการเดินทางที่ยาวนาน

รถไฟที่วิ่งนอกตัวเมือง ถึงแม้จะมีการใช้งานน้อยกว่ารถไฟที่วิ่งในตัวเมือง แต่ในสายที่มีการใช้งานคับคั่ง หรือช่วงเวลาที่เร่งด่วน ที่นั่งสำหรับรถไฟประเภทนี้ก็ไม่เพียงพอ ถ้าเราไม่ได้จองที่นั่งไว้ล่วงหน้า เราก็ต้องยืนไปตลอดการเดินทางไกล อย่างแน่นอน

 


รถไฟที่เป็นตู้จอง และไม่จองนั้นจะถูกแยกออกจากกัน ตู้จองที่นั่ง จะไม่มีผู้โดยสารมายืนรบกวนเราในตู้รถไฟ

 

วิธีการจองตั๋วรถไฟที่ง่ายแสนง่าย เรามาดูกันเลย ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

1. มองหาคำว่า JR Ticket Office ทุกสถานีของ JR จะมีห้องบริการสำหรับการจองตั๋วรถไฟ ถ้าเราอยู่ที่สถานีรถไฟท้องถิ่น หรือว่าสถานีเล็กๆ  เช่น Otsuki นั้นจะไม่มีห้องจองตั๋ว เราสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลอยู่ตรงประตูทางเข้าแทนได้เลย

 

2. บอกสถานที่ และเวลาที่ต้องการจะไป เช่น เราอยู่ที่สถานีโตเกียว ต้องการไปที่ นาโกย่า ก็บอกกับเจ้าหน้าที่ได้เลย ว่าเราต้องการจะไปนาโกย่า เจ้าหน้าที่จะออกตั๋วที่กำหนดตู้ และที่นั่งของรถไฟ ตามเวลาที่เราต้องการมาให้ แต่หากไม่มีเวลาตามที่เรากำหนด เช่น ถ้าอยากไปตอนนี้เลย เจ้าหน้าที่ก็จะออกตั๋ว รอบที่เร็วที่สุด เพื่อให้เราเดินไป ถึงชานชลารถไฟได้ทัน

 

3. เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่หลงทาง ให้ถามชานชลาที่ต้องขึ้นกับเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะการขึ้นรถไฟของญี่ปุ่น ถ้าไม่รู้ชานชลาที่แน่นอน จะทำให้เสียเวลาหาชานชลา และจะทำให้เราขึ้นรถไฟขบวนนั้นๆ ไม่ทัน

4. เมื่อเราอยู่ที่ชานชลาถูกต้องแล้ว ให้ดูตั๋วว่าจะต้องขึ้นที่ตู้ไหน สังเกตุที่พื้น หรือป้าย ซึ่งจะบอกตำแหน่งของตู้ที่เราต้องการขึ้น ไว้อย่างชัดเจน

 

5. ขั้นตอนสุดท้าย มองหาป้ายไฟ ที่บอกเวลาของรถไฟ ว่ามีชื่อของขบวนรถไฟที่เราต้องการจะขึ้นอยู่หรือไม่  จากนั้นก็ยืนรอเวลาที่รถไฟจะมา  รถไฟของญี่ปุ่น จะมาตรงกับเวลาที่กำหนดไว้ หรือบางขบวนอาจจะมาก่อนนิดหน่อยเพื่อจอดรอผู้โดยสาร หากไม่มั่นใจว่าจะยืนถูกตู้หรือไม่ ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ใกล้ๆ ดูเพื่อเช็คให้แน่ใจก่อนขึ้นก็จะดีมาก คราวนี้ไม่หลงแน่นอน

รู้ขั้นตอนการขึ้นรถไฟและการจองที่นั่ง เพื่อไม่ให้หลงกันแล้ว ทีนี้เราก็สามารถขึ้นรถไฟ และเดินทางท่องเที่ยวให้ทั่วญี่ปุ่นได้อย่างมั่นใจ สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้บริการรับรองเลยว่าลองทำสัก 2-3 ครั้ง ก็จะขึ้นรถไฟได้อย่างคล่องแคล่ว และไม่หลงทางอย่างแน่นอน แล้วคุณจะรู้ว่ารถไฟญี่ปุ่นง่ายกว่าที่คิด

สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น สิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางต้อง JR Pass (Japan Rail Pass) เท่านั้น มีเพียงบัตรเดียว ทำให้การเดินทางทั่วญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายหายห่วงเลยทีเดียว