ชมแสงออโรร่า ที่เมืองโยโกสุกะ

ติ๊กยังคงพาท่องเที่ยวกันต่อที่เมืองโยโกสุกะ กันค่ะ วันนี้ติ๊กจะพามาชมสวนกันที่สวน อูเมเบะ ซูริ โคเอน (Umibe-Turi-Kouenn Park)

เป็นสวนที่คนนิยมมาตกปลาค่ะ ตามติ๊กเข้าไปชมสวนด้านในกันเลยค่ะ

 

ปลาอูมิทานาโงะ (Umitanago) จะเป็นปลาที่ตกได้ในสวนแห่งนี้ เมื่อตกปลาอูมิทานาโงะได้ จะนิยมนำไปทอดกรอบๆ หรือทำเทมปุระค่ะ

 

เดี๋ยวเราไปเที่ยวอีกสวนหนึ่งต่อเลยนะค่ะ อยู่ใกล้ๆ กันกับสวนแห่งนี้ จะเป็นสวนสไตล์อเมริกัน ชื่อว่าสวน ยูมิกาเสะโคเอน (Umikaze - Kouenn Park ) เป็นสวนสไตล์ American activity  เพราะที่นี่เป็นฐานทัพเรืออเมริกาค่ะ โดยจะมีสวนไว้ให้ลูกหลานทหารอเมริกันได้มาเล่น จะมีกีฬาสไตล์อเมริกัน หลายๆ ชนิด มีสเก็ตบอร์ด จักรยานวิบาก สนามบาสเกตบอล สวนนี้จะอยู่ริมอ่าวโตเกียวเลยค่ะ

 

ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว ติ๊กจะพาไปเที่ยวกันต่อที่โซเร ยู พาร์ค  จะมีการโชว์แสงไฟ Aurora ที่สวยงามค่ะ โซเรยู (soreiyu) แปลว่าพระอาทิตย์เที่ยงคืน จะสวยงามขนาดไหน ตามติ๊กมาเลยนะค่ะ

 

ก่อนที่จะไปดูเเสง Aurora กัน เรามาหาอะไรอุ่นๆ ทานกันหน่อยดีกว่าค่ะ ที่ร้าน โพบาซึ เป็นบุฟเฟต์สไตล์ญี่ปุ่น มีอาหารหลากหลายชนิด เราไปเลือกทานกันดีกว่าค่ะ อาหารที่นี่มีหลากหลายอย่าง มีหมูทอด ไก่ทอด ไก่เปรี้ยวหวาน ไส้กรอก สปาเก็ตตี้ ผัดผักกุ้งซุป เมื่อทานอิ่มแล้ว เราก็พร้อมจะไปดูโชว์แสงสีเสียงไฟ Aurora กันเลยค่ะ

 

แสง Aurora ที่เราเห็น เป็นการโชว์ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เหมือนกับมีแสงเรืองแสงบนท้องฟ้า มักเกิดขึ้นในขั้วโลก ถ้าเกิดขึ้นที่ขั้วโลกเหนือ จะเรียกว่าแสงเหนือ ถ้าเกิดขึ้นที่ขั้วโลกใต้ จะเรียกว่า แสงใต้

 

พรุ่งนี้ติ๊กจะพาไปปั่นจักรยานชมสวนกันบ้างค่ะ ที่สวนเคนนอนซากิ กันค่ะ

สวนเคนนอนซากิ (Kannonsaki Park) เป็นสวนที่ติดอยู่ริมทะเล มีประภาคารสไตล์ยุโรปที่เก่าแก่

 

ระหว่างทางเดินเข้าสวน จะพบถ้ำ โดยในถ้ำนี้จะมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ในถ้ำแห่งนี้มีงูใหญ่ที่ดุมากออกมาทำร้ายประชาชน จักรพรรดิรู้ข่าวว่ามีงูใหญ่ที่ดุมากออกมาทำร้ายประชาชน จึงออกมาปราบงูใหญ่นั้นด้วยพระองค์เอง แล้วงูนั้นก็หายไป จากนั้นชาวบ้านจึงทำ จิโซะ ขึ้นมา จิโซะ คือ ก้อนหินที่เวลาอฐิษฐาน แล้วนำหินมาวางต่อๆ กัน เมื่อนำมาเรียงต่อกันแล้วก็อธิษฐาน ขอให้การเดินทางในทะเลอย่างปลอดภัย

 

ประภาคารนี้ แต่เดิมใช้เป็นจุดสังเกตุการณ์ของท่านโชกุน โทกุกาว่าเอยยาซึ ปี 1812 และหลังจากนั้นปี 1867 ได้สั่งให้สร้างประภาคารขึ้นบนจุดสังเกตุการณ์ขึ้นมา โดยใช้วิศวกรชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบประภาคารนี้ขึ้นมาค่ะ ต่อมาได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา 2 ครั้ง ประภาคารจึงโค่นลงมา ที่เห็นในปัจจุบันเป็นการสร้างขึ้นในครั้งที่ 3  ในปี 1925

 

ประภาคารนี้ถือเป็นประภาคารสไตล์ยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ ด้านหน้าประภาคาร นอกจากจะมองวิวอ่าวโตเกียวได้แล้ว ยังสามารถเดินขึ้นไปด้านบนของประภาคารเพื่อไปชมความสวยงามด้านบนได้อีกด้วยค่ะ

เดี๋ยวเราไปหาอะไรสนุกๆ น่าตื่นเต้นทำกันบ้างดีกว่าค่ะ เราไปที่ อันชินคัน (Anshinkan) กันค่ะ ด้านใน อันชินคัน เป็นการเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดในการเกิดภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไฟไหม้ หรือแผ่นดินไหว

   

เราเข้าไปดูสถานการณ์จำลองกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าถ้าเกิดแผ่นดินไหวเราจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง เมื่อเราอยู่ในบ้าน เราจะต้องหลบเข้าไปใต้โต๊ะ หรือมุมที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดค่ะ และต้องไปดูที่แก็สว่าเปิดอยู่หรือเปล่า  เพื่อนบ้านบอกว่าไฟไฟม้ เราต้องรีบไปช่วยดับไฟโดยใช้ถังดับเพลิงค่ะ เมื่อเราอยู่ในห้องที่มีควันไฟหนา เราต้องอยู่ในที่ที่ต่ำ โดยการมอบคลานให้ต่ำที่สุดค่ะ

 

เป็นการเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติ ที่เราได้เรียนรู้ และสามารถนำไปใช้ได้จริงเวลาเกิดหตุการณ์ที่ไม่คลาดคิดขึ้น จริงๆได้ด้วย ดีมากๆ เลยค่ะ คราวหน้า ติ๊กจะพาไปท่องเที่ยวที่ไหนอีก มาติดตามกันนะค่ะ