สวนเซนกันเอน (Sengan-en) สวนสวยแห่งเมืองคาโกชิมะ

พูดถึงสวนเซนกันเอน ทุกคนจะต้องนึกถึง สวนที่มีภูเขาไฟซากุระจิมะ เป็นแบล็คกราวน์ รายล้อมไปด้วยทะเลสีครามของอ่าวคาโกชิมะ

 

สวนเซนกันเอน (Sengan-en) เป็นสวนนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ และก็เดินทางง่ายด้วย นั่งรถบัสแป็บเดียวก็ถึงแล้ว

 

สวนเซนกันเอน (Sengan-en) ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านเหนือของตัวเมืองคาโกชิมะ  ถูกสร้างขึ้นในปี 1658 โดยตระกูลชิมัตสึ (Shimazu) ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางเก่า ในช่วงสมัยเอโดะ

 

สวนเซนกันเอน ไม่แค่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยๆ งามเท่านั้น ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกหลายอย่างอยู่ด้านใน อยากรู้แล้วใช่ไหม ว่าจะมีอะไรน่าสนใจที่ด้านในบ้าง ตามมาเลย

 

สวนเซนกันเอน (Sengan-en) เป็นสวนสไตล์ของยุคเอโดะ สร้างขึ้นเมื่อปี 1658 ปัจจุบันอายุกว่า 350 ปีแล้ว ค่าเข้าชมสวนนี้ ถ้าเข้าชมสวนและพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน แต่ถ้าเข้าชมสวนพิพิธภัณฑ์ และบ้านขุนนาง ผู้ใหญ่ 1,600 เยน เด็ก 800 เยนเลือกซื้อตั๋วกันได้เลย ว่าจะเข้าชมแบบไหน ในวันนี้ เราจะพาเข้าชมทั้ง 3 ที่เลย

 

เราเข้าไปด้านในสวนกันเลยดีกว่า

 

เดินเข้ามาจะเจอกับปืนใหญ่ตั้งเด่นอยู่ ปืนใหญ่นี้เป็นอาวุธที่มีอานุภาพที่สุดในยุคปลายสมัยเอโดะ ลูกกระสุนที่ใช้กับปืนใหญ่นี้ มีน้ำหนัก 150 ปอนด์ หรือ 70 กโลกรัม เลยทีเดียว วิถีการยิงไกลถึง 3 กิโลเมตร

 

เราเดินขึ้นมาเรื่อยๆ เราสามารถมองเห็นวิวของสวน ที่ขนานกับบริเวณริมอ่าว เราจะเห็นวิวของอ่าวคาโกชิมะ (Kagoshima Bay) และวิวด้านหลังเป็นภูเขาไฟซากุระจิมะ (Sakurajima) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ช่างเป็นวิวที่สวยงามจริงๆ

 

เดินเข้ามาเรื่อยๆ ถึงกลางสวนจะเจอกับศาลเจ้าแมว (Cat Shrine)

   

ที่ศาลเจ้าแมวแห่งนี้มีเรื่องเล่าว่า เจ้าของที่แห่งนี้ ชื่อว่า โยชิฮิโระ ชิมัตสึ เวลาจะออกรบ จะสังเกตุลูกตาของแมว

   

เพื่อเป็นการบอกเวลาในสมัยนั้น ดวงตากลมโตของแมว จะบอกช่วงเวลา 6 โมงเช้า พอ 8 โมง ตาแมวก็จะค่อยๆ หรี่เล็กลง เรื่อยๆ และจะตาโตกลมอีกครั้งในช่วงเย็น ซึ่งในสมัยนั้นจะใช้วิธีการดูลูกตาแมวเพื่อเป็นการบอกเวลาในการออกรบ

 

ใครมีแมวให้มาไหว้ที่ศาลเจ้านี้ และมาขอพรกันได้ที่นี่

 

เดินมาเรื่อยๆ จากศาลเจ้าแมว จะเจอกับร้านขายของที่ระลึก ซึ่งที่นี่จะขายเครื่องแก้วของซัตสึมะ ซึ่งเป็นแก้วที่ขึ้นชื่อของที่นี่

 

ร้าน ซัตสึมะ คิริโกะ (Satsuma Kiriko) เป็นร้านที่ขายเครื่องแก้ว และโชว์เครื่องแก้วที่ประณีตสวยงาม

 

ด้านในร้าน จะมีเครื่องแก้วที่ขึ้นชื่อของซัตสึมะ (Satsuma) จ.คาโกชิมะ

 

เครื่องแก้ว สวยงามมาก มีหลากหลายแบบ

 

แต่ละแบบมีราคาแพง

 

เราเดินดูกันเฉยๆ ก็พอแล้ว ชื่นชมความสวยงามด้วยตาเพียงอย่างเดียว ก็มีความสุขแล้ว

 

จากร้าน ซัตสึมะ คิริโกะ เราเดินมาที่ อิโซะ เรสซิเด้นท์ หรือ อิโซะ การ์เด้น (Iso Residence) ซึ่งเป็นบ้านเก่าของตระกูลขุนนาง ชิมัตสึ นั่นเอง

 

จุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของสวนแห่งนี้ ไลอ้อน สโตน แลนเทริน (Lion Stone Lantern) หรือตะเกียงสิงโต

 

ด้านบนจะมีสิงโต คว่ำหน้าลง ตัวหางและก้นชี้ฟ้า

 

ตรงกลางเป็นที่สำหรับไว้จุดเทียน เป็นตะเกียงขนาดใหญ่มากๆ

 

เราเดินไปอีกนิดจาก เราจะเห็นหินแกะสลักตัวอักษรที่หน้าผา ที่ขุนนางชิมัตสึให้คนขึ้นไปแกะสลัก โดยใช้คนถึง 3,000 คน ทำไมต้องใช้คนมากขนาดนี้ แพราะว่าให้คนช่วยกันสร้างนั่งร้าน เพื่อปีนขึ้นไปแกะสลักตัวอักษรบนหน้าผาตรงนั้นนั่นเอง

 

หินที่แกะสลักนี้ มีความหมายว่า หินนี้มีขนาดกว้างใหญ่ ใช้คน 1,000 คนยืนเรียงต่อๆ กัน แหม่แค่ชื่อยังยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ในสมัยก่อน มักจะตั้งชื่อให้ดูยิ่งใหญ่กว่าของจริง

 

เดินต่อมาในบริเวณที่ เป็นสวนของ อิโซะ การ์เด้น เป็นสวนสไตล์ยุคเอโดะ เราสามารถมองเห็นอ่าวคาโกชิมะ (Kagoshima Bay) ด้านหลัง และซ้อนด้วยภูเขาไฟซากุระจิมะ (Sakurajima) เรียกได้ว่าเป็นวิวที่สวยอีกแห่งของสวนเซนกันเอน เลยทีเดียว

 

สวนในบริเวณนี้ เป็นที่ตั้งของบ้านตระกูลชิมัตสึ (Shimazu) เป็นตระกูลขุนนางเก่า ถูกปลูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับสวนแห่งนี้

บ้านที่เห็นอยู่หลังนี้ ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1880 ทุกอย่างคงเดิม เหมือนเดิม ลักษณะบ้านเหมือนเดิมทุกอย่าง

 

ด้านในห้องต่างๆ ก็ยังเหมือนเดิมเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวนที่มีวิวที่สวยงาม และมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากทีเดียว

 

เราเข้าไปชมภายในตัวบ้านอิโซะ เรสซิเด้นท์ กันดีกว่า ตัวบ้านเดิมมีอายุกว่า 250 ปี แต่หลังที่เราเข้ามาชมอยู่นี้ เป็นบ้านที่สร้างขึ้นมาใหม่ มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว

 

ค่าเข้าชมบ้านนี้ ราคา 600 เยน ถ้าเราซื้อตั๋วรวมมาตั้งแต่ตอนแรก ก็เข้ามาชมได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม

 

ในบ้านหลังนี้จะมีไกด์มาบรรยายบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ภายในบ้าน และในบ้านจะแบ่งเป็นห้องต่างๆ หลายห้อง

 

มีห้องรับรอง ห้องรับแขก ห้องนอนของขุนนางชิมัตสึ

 

ห้องอาหารสไตล์ตะวันตก ด้านบนมีดคมไฟที่สั่งมาจากประเทศอังกฤษในสมัยนั้น ที่นี่เป็นที่แรกๆ ที่ใช้ไฟฟ้าในสมัยก่อนยุคศตวรรษที่ 18 ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานน้ำด้วย

 

เราเดินเข้ามาที่ห้องใช้สำหรับดื่มชา  ภายในห้องนี้จะมีขนมและน้ำชาให้ดื่มด้วย ขนมและน้ำชา จะรวมอยู่ในราคาค่าเข้าชมแล้ว เราสามารถทานขนมและเดิมชาไปพร้อมกับเสพบรรยากาศที่สวยงามของสวนไปด้วย ช่างมีความสุขจริงๆ

 

ขนมที่นี่จะเป็นขนมที่มีเฉพาะที่สวนแห่งนี้เท่านั้น ก่อนดื่มชา เราจะต้องทานขนมก่อน  เมื่อเกิดความหวานในคอแล้ว เราค่อยดื่มชาตามลงไป

  

ขนมจะคล้ายๆ กับขนมลูกเต๋าของสุพรรณ ทานแล้วรู้สึกหวานแสบคอ แล้วก็ดื่มชาตาม

 

เวลาดื่มชา อย่ายกขึ้นมาดื่มเลย วางบนมือนิดนึง แล้วหมุนเสพบรรยากาศของถ้วยชาสักเล็กน้อย

 

จากนั้นค่อยดื่ม ดื่มพร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติ

 

ห้องชาส่วนใหญ่ จะเป็นห้องที่มีวิวด้านหน้าที่สวยงาม และห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องที่ขุนนางชิมัตสึเลือกไว้สำหรับดื่มชา พร้อมกับชมบรรยากาศสวนขนาดย่อมที่สวยงาม

 

ดื่มชาทานขนมกันเสร็จแล้ว รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเลย คราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ มาติดตามกันนะ

 

เวลาเปิด-ปิด : 8.30 น. – 17.30 น.

ค่าเข้าชม : สวนและพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน

                  สวนพิพิธภัณฑ์ และบ้านขุนนาง ผู้ใหญ่ 1,600 เยน เด็ก 800 เยน

การเดินทาง :

จากสถานีคาโกชิมะ ชูโอ (Kagoshima Chuo Station) ขึ้นรถบัสสาย 10 ลงที่ป้ายเซนกันเอน (Sengan-enMae) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน